วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2552

แฉ'กบข.'เสียหายพันล.

ปปท.ทำ'หนังสือ'ขอตรวจสอบด่วน
'ปปท.' ร่อนหนังสือด่วนขอตรวจสอบ 'กบข.' ด้าน 'ตลท.' ลั่นพร้อมป็นอนุกรรมการพิเศษ ขณะที่ 'สตง.' ระบุความเสียหาย 5 เปอร์ เซ็นต์ แต่มูลค่ากว่า พันล้านพร้อมลุยสอบผู้บริหาร กบข. เปิดพอร์ตหุ้นทับซ้อน
เมื่อวันที่ 17 มี.ค. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ ทำหนังสือด่วนมาที่ ยธ. 1200/218 ถึง ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เพื่อขอตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการได้รับเรื่องร้องเรียนจากข้าราชการที่เป็นสมาชิกกบข.ว่า ได้รับใบรับรองและใบแจ้งยอดเงินสมาชิกในปี 2551 ประสบภาวะขาดทุน ทำให้รายได้ที่ควรจะได้รับของกบข.ลดลง โดยป.ป.ท.ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของกบข.พบว่า การลงทุนในตราสารทุนของภาคเอกชน มีมูลค่าลดลง โดยประการที่น่าจะมีผลต่อการลงทุนที่ประสบภาวะขาดทุน อันเกิดจากการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับ จึงได้แจ้งต่อเลขาธิการกบข.เพื่อขอเข้าตรวจสอบโดยมีหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายและการลงทุนเข้าร่วม ด้านนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (บอร์ดกบข.) มีมติอย่างไม่เป็นทางการให้ตั้งอนุกรรมการพิเศษขึ้นมาตรวจสอบการดำเนินงานของ กบข. ว่า ตลท. และ วิทยาลัยพัฒนาตลาดทุน ยินดีที่จะเข้าร่วมเป็นกรรมการ เพื่อให้อนุกรรมการที่กบข.ตั้งขึ้นสามารถให้คำอธิบายที่ชัดเจนกับสมาชิกและเกิดความกระจ่างในข้อสงสัยที่เกิดขึ้น โดยการลงทุนของกบข.ต้องเป็นไปตามกรอบที่กฎหมาย กำหนด แต่การลงทุนประเภทที่มีความเสี่ยง ต้องอธิบายให้สมาชิกเข้าใจได้ ถึงส่วนผสมของการลงทุน ทั้งตราสารหนี้ ตลาดหุ้น ว่าให้ผล ตอบแทนแตกต่างกันอย่างไร ขณะที่แหล่งข่าวจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า สตง.กำลังตรวจสอบการเปิดพอร์ตลงทุนหุ้นของคณะกรรมการและผู้บริหาร กบข. เนื่องจาก กบข.ถือเป็นนักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ที่การซื้อขายหุ้นแต่ละครั้งสามารถชี้นำตลาดได้ในระดับหนึ่ง หากคณะกรรมการและผู้บริหารของ กบข.เปิดพอร์ตลงทุนในหุ้นเองอาจถือว่าไม่เหมาะสม และมีผลประโยชน์ทับซ้อนได้ ดังนั้น สตง.จึงต้องตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการลงทุนของ กบข.ที่ผู้บริหารระบุว่ามีความเสียหายเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น หากพิจารณาพอร์ต ลงทุนรวมของกบข.ที่มีกว่า 3 แสนล้านบาทนั้น จะพบว่าความเสียหาย 5 เปอร์เซ็นต์ นั้นมีมูลค่าสูงกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่เล็กน้อยเลยในการทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบเรื่องนี้อย่างรอบคอบ โดยในวันที่ 27 มี.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ตามวาระปกติซึ่งอาจจะพิจารณาตำแหน่งของเลขาธิการ กบข.ร่วมด้วย.

ไม่มีความคิดเห็น: